หากคุณชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นและต้องการหาประสบการณ์ทานอาหารชั้นเลิศที่อร่อยไม่ซ้ำ ต้องมาลองโอมากาเสะ!!
เพราะโอมากาเสะคือคอร์สอาหารญี่ปุ่นที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ทั้งในด้านบรรยากาศ รสชาติของอาหาร วัตถุดิบ และการพูดคุยระหว่างเชฟแน่นอนว่าอาหารแต่ละชาติจะมีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างกันโอมากาเสะเองก็เช่นกัน เรามาดูเคล็ดลับและมารยาทในการกินโอมากาเสะกัน
1. ต้องจองล่วงหน้าและควรมาก่อนเวลา
โอมากาเสะส่วนใหญ่มีพื้นที่จำกัดก่อนที่คุณจะมากินควรสำรองที่นั่งมาให้เรียบร้อยก่อน และควรให้ตรงเวลา หากเป็นไปได้ควรมาก่อนเวลาอย่างน้อย 10 นาที เพื่อเป็นการแสดงความเคราพต่อเชฟและไม่ให้ลูกค้าท่านอื่นรอ เนื่องจากแต่ละรอบจะมีลูกค้าท่านอื่นทานด้วย หากคุณแพ้อาหารชนิดใดควรแจ้งเชฟล่วงหน้า
2. อย่าใส่น้ำหอมมากเกินไปมาที่ร้าน
เนื่องจากร้านอาหารขส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก กลิ่นน้ำหอมของคุณอาจไปรบกวนลูกค้าท่านอื่น อีกทั้งน้ำหอมของคุณอาจรบกวนการทำงานของเชฟทำให้เชฟรับรู้กลิ่นและรสชาติของปลาเปลี่ยนแปลงไป ทำให้รสชาติของอาหารเสียรสได้ เพื่อเพลิดเพลินกับรสชาติของโอมากาเสะคุณควรลดการฉีดน้ำหอมรวมถึงการสูบบุหรี่
3. พูดคุยไปกับเชฟ
ในระหว่างการเตรียมอาหารเชฟจะอธิบายส่วนผสมอย่างเป็นกันเองเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและใกล้ชิดกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรถามว่าเชฟฝึกจากที่ไหนเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ และอย่าคิดว่าเชฟที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นจะไม่มีรู้จักวัตถุดิบหรือมีความเชี่ยวชาญมากพอเพราะเชฟที่มายืนตรงนี้ได้ล้วนผ่านประสบการณ์มากมายจนสามารถเป็นเชฟโอมากาเสะได้ อีกทั้ง หากคุณมีประวัติแพ้อาหารควรแจ้งล่วงหน้า เพื่อให้เชฟสามารถจัดเตรียมเมนูที่ต่างออกไปสำหรับคุณโดยเฉพาะ
4. ควรเชื่อใจในเชฟ
แม้ว่าคุณจะสามารถบอกเชฟเกี่ยวกับอาหารที่แพ้หรือไม่สามารถทานได้ แต่คุณไม่สามารถบอกให้เชฟเปลี่ยนวิธีการทำอาหาร หรือเพิ่มนั่นเพิ่มนี้ หรือไม่ให้เติมวาซาบิ หรือใส่ซีอิ๋วเพิ่มตามความชอบของคุณ เพราะอาจทำให้อาหารเสียรสชาติไป เว้นแต่คุณทานเผ็ดไม่ได้หรือมีข้อจำกัดอื่น ๆ
5. กินทันทีที่เชฟเสิร์ฟ
เมื่อเชฟเสิร์ฟอาหารแล้วควรทานทันทีโดยเฉพาะซูชิ เพราะวัตถุดิบเหล่านี้จะมีความอร่อยที่สุด คือหลังที่เชฟทำเสร็จใหม่ หากคุณพลาดไปเพียงนาทีเดียวอาจทำให้รสชาติของวัตถุดิบอ่อนลงได้ เพราะเชฟตั้งใจเตรียมอาหารอย่างพิถีพิถัน ทั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมและเวลาที่ใช้ ดังนั้น อย่ารอช้า!! ควรทานทันทีหลังจากเชฟเสิร์ฟ
6. ทานให้หมดในหนึ่งคำ
เชฟมักจะทำซูชิไว้ในขนาดหนึ่งคำพอดีอยู่แล้ว คุณแม่ควรแบ่งครึ่งหรือแบ่งส่วนทาน อีกทั้งไม่จำเป็นที่ต้องใส่วาซาบิเพิ่มเชฟมักจะใส่วาซาบิให้อยู่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรทำอย่างยิ่งเมื่อมาทานโอมากาเสะ คือ การผสมวาซาบิกับซอสโชยุไว้ด้วยกัน เพราะเป็นวิธีการทานวาซาบิที่ผิด หากต้องการจุ่มซอสเพิ่มให้จุ้มแค่เนื้อปลาเท่านั้น เพราะเชฟได้ปรุงรสของข้าวมาเป็นอย่างดี
7. ควรขออนุญาตก่อนถ่ายรูป
การถ่ายภาพภายในร้านอาหารอาจไม่ผิดกฏหมาย แต่ในร้านอาหารบางที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เพราะเชฟอยากให้คุณได้พลิดเพลินกับอาหารทันทีที่เสิร์ฟ และการถ่ายรูปของคุณอาจรับกวนลูกค้าท่านอื่นได้ หากคุณต้องการถ่ายรูปควรขออนุญาตจากเชฟก่อนทุกครั้ง เมื่อถ่ายภาพควรปิดแฟลชและเสียงเพื่อไม่ให้รบกวนลูกค้าท่านอื่น และต้องไม่มีภาพของลูกค้าท่านอื่นในภาพถ่ายของคุณ
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร สามารถมาทานได้ที่ ร้าน Sushi Koge ชั้น B อาคารวานิชวิลเลจ อารีย์ ร้านเปิดให้บริการในวันอังคารจนถึงวันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 21.00 น. แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบกลางวัน 12:00 / 13:45 และรอบเย็น 18:00 /19:45 ใช้เวลาในการเสิร์ฟรอบละ 1.30 ชม. เริ่มต้นที่ 15 Course ราคารวมเครื่องดื่มเริ่มต้น 2,900 ++ บาท (ไม่รวม Vat7% และ Service Charge10%)
จองตอนนี้เลย! จำกัดที่นั่งเพียง 12 ที่นั่งเท่านั้น แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://lin.ee/CdamYNj หรือ โทร. 099-003-9039