มิโซะ เป็นเครื่องปรุงรสดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นที่มีมานานนับพันปี อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย และขาดไม่ได้ในการทำอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะซุปมิโซะที่คนญี่ปุ่นมักทานกับข้าวอยู่เสมอ ใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นคงได้ทานกันอยู่บ่อย ๆ วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกถึงเรื่องราวของมิโซะที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนกันครับ
มิโซะ (Miso) สุดยอดเครื่องปรุงคู่อาหารญี่ปุ่น
มิโซะ หรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น เป็นเครื่องปรุงรสที่ทำจากส่วนผสมหลักอย่างถั่วเหลือง ข้าวโคจิ(เชื้อราชนิดหนึ่งที่ใช้ในการหมักมิโซะ) และเกลือ จากนั้นจะนำไปหมักหรือบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม มิโซะมีหลากหลายรสชาติทั้งหวาน เค็ม ขม เปรี้ยว และฝาด แต่ส่วนใหญ่จะมีรสชาติออกเค็ม เหมาะสำหรับนำไปทำเป็นซุปมิโซะเป็นที่สุด
ชนิดของมิโซะ
มิโซะแบ่งออกเป็น 4 ชนิดหลัก ๆ ตามวัตถุดิบ ได้แก่
- มิโซะข้าว ทำจากข้าว ถั่วเหลือง และเกลือ
- มิโซะข้าวบาร์เลย์ ทำจากข้าวสาลี ถั่วเหลือง และเกลือ ส่วนใหญ่ผลิตจากภูมิภาค Chugoku, Shikoku และ Kyushu
- มิโซะถั่วเหลือง มันทำจากถั่วเหลืองและเกลือ ผลิตจากภูมิภาค Chukyo เป็นหลัก
- มิโซะผสม เป็นมิโซะที่มีการนำข้าวสองหรือสามชนิดมาผสมกัน เช่น ข้าวบาร์เลย์และถั่วเหลือง
นอกจากนี้ มิโซะยังแบ่งตามสี คือ มิโซะสีแดง มิโซะสีอ่อน และมิโซะสีขาว ซึ่งแต่ละสีนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของวัตถุดิบ รวมถึงกระบวนการหมักหรือบ่มด้วยครับ
วิวัฒนาการของมิโซะ กว่าจะเป็นมิโซะในปัจจุบัน
คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่ามิโซะได้รับอิทธิพลมาจากจีนในสมัยคามาคุระ เดิมทีมิโซะเป็นอาหารที่หรูหราไม่ใช่เครื่องปรุงรสที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่พอญี่ปุ่นมีการนำครกซูริบาจิเข้ามาใช้สำหรับบดเมล็ดข้าวทำให้มีคนนำครกนี้ไปใช้ในการบดวัตถุดิบสำหรับทำมิโซะขึ้น อาหารที่ทำจากมิโซะจึงถือกำเนิดขึ้นมาและเรียกเมนูนั้นว่า “อิจิจูอิจิ”
ต่อมาในสมัยมูโรมาจิ เป็นยุคที่เริ่มมีการพัฒนาและผลิตหลาย ๆ อย่างทำให้ชาวบ้านเริ่มปลูกถัวเหลือง มีการนำถั่วเหลืองมาทำเป็นมิโซะ และเริ่มใช้วิธีถนอมอาหารกับมิโซะขึ้น ซึ่งหลายคนคาดว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องปรุงรสมิโซะที่ใช้กันในปัจจุบัน
จากนั้นในสมัยเซ็นโกกุ จากเหล่าซามูไรในสนามรบได้นำเอามิโซะติดตัวไปด้วย เนื่องจากมิโซะเป็นเครื่องปรุงรสที่อุดมไปด้วยโปรตีนสูงและสารอาหารอื่น ๆ ทั้งยังสามารถเก็บได้นานและพกพาได้สะดวก จนกระทั่งสมัยเอโดะวัฒนธรรมการกินมิโซะและซุปมิโซะแพร่หลายมากขึ้นทำให้มีการผลิตมิโซะมาขึ้น พอมาถึงสมัยโชวะมีการนำเทคโนโลยีมากมายมาใช้ในการผลิตมิโซะให้มีปริมาณมากขึ้นและสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้นเช่นเดียวกับปัจจุบันนั่นเองครับ
มิโซะ เครื่องปรุงรสที่ดีต่อสุขภาพ
ถั่วเหลืองซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของมิโซะอุดมไปด้วยโปรตีนจากพืช มีกรดอะมิโนที่จำเป็นและวิตามินจำนวนมากจากกระบวนการหมักมิโซะ รวมถึงสารอาหารอื่น ๆ มากมาย เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร
ส่วนซุปมิโซะนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมอง โรคสมองเสื่อม และโรคหัวใจ แถมยังช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงได้ดีอีกด้วย เพื่อโภชนาการที่ดีควรเติมส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ผัก เต้าหู้ หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ ลงไปด้วยนะครับ
สำหรับใครที่อยากทานอาหารญี่ปุ่นกับซุปมิโซะ สามารถมาทานได้ที่ sushi koge ร้านโอมากาเสะพรีเมี่ยมที่เสิร์ฟความอร่อยแบบสุดพิเศษ เพราะเราคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแหล่งวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยมีเชฟมากประสบการณ์ที่จะดูแลคอร์สอาหารของคุณตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบ การจัดเก็บที่ต้องคงความสดใหม่เสมอ การเตรียมวัตถุดิบที่ที่ต้องอาศัยความชำนาญ การปรุงรสชาติที่พิถีพิถัน และการจัดเสิร์ฟคอร์สอาหารที่ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน เพื่อให้คุณมีความสุขในทุก ๆ คำ
Sushi Koge ตั้งอยู่ชั้น B วานิชวิลเลจ อารีย์ (Vanit Village Aree) เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทำการทุกวันจันทร์) มีรอบให้บริการดังนี้ เวลา 12.00/13.45/18.00/19.45 น. ใช้เวลาในการเสิร์ฟรอบละ 1.30 ชม. (จำกัด 12 ที่นั่งต่อรอบ) สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://lin.ee/CdamYNj หรือ โทร. 099-003-9039
